ถามสั้น แต่ตอนตอบไม่สั้นนะครับ พยายามอ่านนะครับ ถ้าเอาแบบสรุปคือไม่มีวิธีการสำเร็จรูป ที่ง่ายเหมือน เทน้ำร้อนใส่มาม่าแล้วรอ 3 นาที กินได้เลย แต่มันมีวิธีที่เราต้องยินดีทำงานหนัก 3-5 ปี เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตแบบที่คนส่วนใหญ่อยากมี แต่ไม่เคยได้ใช้
การลงทุนสามารถ แยกเป็น 2 ประเภท
-
การลงทุนทางตรง (Direct investment) เป็นการลงทุนที่เจ้าของเงินต้องทําการตัดสินใจลงทุนในขั้นสุดท้ายด้วยตนเอง (เช่น การเป็นเจ้าของกิจการ มีอำนาจในการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย เช่น Warrent Buffett เป็นเจ้าของ Berkshire hateaway หรือ Ellon Musk เป็นเจ้าของ Testla)
-
การลงทุนทางอ้อม (Indirect investment) เป็นการลงทุนที่มีสถาบันอื่นกระทำการตัดสินใจลงทุนในขั้นสุดท้ายแทนเจ้าของเงิน เช่น การลงทุนผ่านกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล หรือแม้แต่การลงทุนในหุ้น (ถึงมีสิทธิออกเสียง แต่ก็ไม่ใช่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายด้วยตนเอง)
การลงทุนในแบบ Direct investment นั้น ถ้าเป็นผู้ประกอบการที่มีความรู้ ความสามารถ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ภายในไม่กี่ปี และในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ ก็สามารถที่จะล้มเหลวและสูญเสียเงินทั้งหมดไปได้ (ซึ่งตามสถิติแล้วการลงทุนแบบ Direct investment นั้น โอกาสสำเร็จมีน้อยมาก และมันไม่เหมาะกันทุกคน มีเพียงบางคนเท่านั้นที่เลือกเสียสละ ทุ่มเท และพัฒนาตัวเองเพื่อขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติที่ดีเพียงพอ) ถ้าสำเร็จผลตอบแทนไม่ต้องพูดถึงเกินกว่า 20% ต่อปีแน่
มนุษย์เงินเดือน วางแผนลงทุนแบบ Direct investment ได้ไหม คำตอบคือได้ เช่น วางแผนเป็นเจ้าของกิจการขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ถ้าเราเราวางแผนเสร็จแล้ว ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายว่าจะทำ แค่นี้เราก็ได้เป็นเจ้าของกิจการแล้ว
คราวนี้มาดูว่า กำไรจากการเปิดร้ายขายหมูปิ้งเกิน 20% ไหม ต้นทุนโดยเฉลี่ยสำหรับ พ่อค้าข้าวเหนียวหมูปิ้งมือใหม่ ต้นทุนสำคัญคือหมู ราคากิโลกรัมละ 230 บาท หมู 1 กิโลกรัมทำหมูปิ้งได้ประมาณ 70 ไม้ ถ้าขายไม้ละ 12 บาท จะมีรายได้ 70 x 12 = 840 บาท ผลตอบแทนเกิน 200% (ยังไม่รวมกำไรจากการขายข้าวเหนียว นะครับ)
แต่เพื่อจะได้ผลตอบแทนเหล่านี้ต้อง เราต้องลงแรงทำด้วยตัวเองทั้งหมด ซื้อหมูเอง หมักหมูเอง ปิ้งหมูเอง ยืนขายเอง แก้ปัญหาต่างๆ เอง ตื่นเช้าไปเปิดร้านขายก่อนไปทำงาน หรือยอมเหนื่อยต่อหลังเลิกงานเปิดร้ายขายตอนเย็น และความเหน็ดเหนื่อยในรูปแบบต่างๆ ที่ประดังเข้ามาอีกมากมาย
ดังนั้นมนุษย์เงินเดือนส่วนน้อยที่ยอมเสียสละตัวเอง ใช้เวลาก่อนทำงานหรือหลังเลิกงานเป็นเจ้าของกิจการร้านขายหมูปิ้งทำเองทั้งหมดได้ผลตอบแทนเกิน 20%++ แน่นอนครับ (แต่ 4P product price place promotion ก็ต้องเป็นเลิศนะครับ)
แต่คำถามคือทำไมไม่ทำ คำตอบคือ มนุษย์มีคุณสมบัติเหมือนกันหมดคือ 1. ทุกคนขี้เกียจ และ 2. ทุกคนมองหาของง่าย เพราะกล้วเหนื่อย กลัวลำบาก กลัวไปทุกอย่าง ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงพยายามหาทางเลือกที่ง่ายกว่า แต่ยังคงอยากได้ผลตอบแทนที่ดี
คำตอบคือมันมีการลงทุนทางอ้อม (Direct investment) ที่เหนื่อยน้อยกว่า แต่ยังคงให้ผลตอบแทนดีๆ ได้ มีไหม?
แน่นอนว่าผลตอบแทนจากการลงทุนทางอ้อมที่ดีนัั้นมี แต่โดยทั่วไปแล้วการลงทุนทางอ้อมจะให้ผลตอบแทนน้อยกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนทางตรง (Direct Investment)
ถ้าเราเลือกที่จะลงทุนผ่านหลักทรัพย์ (เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ ค่าเงิน หรือ Cryptocurrency) เราก็จะต้องมีความรู้ มีการวางแผนเพื่อลงทุนในหลักทรัพย์
ซึ่งเราก็จะเห็น มนุษย์เงินเดือนที่สำเร็จและร่ำรวยจากการลงทุนทางอ้อม มันก็มีแต่ไม่มาก เพราะมนุษย์เงินเดือน ที่จะลงทุนทางอ้อมให้ประสบความสำเร็จจะต้องเสียสละ ทุ่มเท และพัฒนาตัวเอง ศึกษาเรื่องการลงทุนอย่างจริงจัง ซึ่งโดยหลักการแล้วการลงทุนในหลักทรัพย์ให้ประสบความสำเร็จ มีองค์ประกอบ 3 ส่วน หรือ 3M คือ 1. Method รู้วิธีคัดเลือกหลักทรัพย์ รู้จังหวะการซื้อขาย 2. Money management รู้เรื่องการบริหารจัดการความเสี่ยงของเงินลงทุน และ 3. Mindset ลงทุนตามแผนมีวินัยในการลงทุน
ถ้าเราไม่ยอมทำอะไรเลย เลือกเอาสบายเลย ผลตอบแทนที่ได้ก็จะลดลงไปเรื่อยๆ สำหรับคนส่วนใหญ่ ผมแนะนำว่าให้ลงทุนในตัวเอง พัฒนาตัวเองให้เป็นเลิศในการทำงาน (เพิ่มเงินเดือน เพิ่มรายได้ขึ้น ให้ได้ทุกๆ ปี อย่างมีนัยสำคัญ) ใช้จ่ายให้ประหยัด และนำเงินที่เหลือมาลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งแน่นอนว่าเราในฐานะผู้ลงทุนในกองทุนรวม แทบไม่ต้องทำอะไรเลย เต็มที่แค่เลือกจัดสรรสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่รับได้ เลือกกองทุนที่ดี (แค่นี้คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ทำเลยครับ เราน่าจะเคยถูกถามใช่ไหมครับว่า ลงทุนกองไหนดี) และมอบอำนาจการตัดสินใจต่างๆ ทั้งหมดให้ผู้จัดการกองทุนทำแทนเลย
ก็ลงทุนผ่านกองทุนรวม ก็สามารถให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในระยะยาวที่ดีได้ เช่น กองทุนรวมหุ้นทั่วโลก ซึ่งคาดหวังได้ 8-10% ต่อปี
ดังนั้น ถ้าถามว่ามนุษย์เงินเดือน วางแผนลงทุนอย่างไรที่จะสามารถได้ผลตอบแทน 20%++ ต่อปี
ลองเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองใหม่ ดังนี้
-
มีมนุษย์เงินเดือนที่สามารถวางแผนลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 20%++ ต่อปี ไหม
-
ถ้าคำตอบของเราคือ มี คำถามข้อต่อไปคือ เค้าเหล่านั้นเป็นใคร
-
เลือกว่าเราอยากเเป็นแบบใคร (หาต้นแบบ) คำถามข้อต่อไปคือ ถามตัวเองว่าเราพร้อมจะเรียนรู้และทำงานหนัก เพื่อกลายเป็นต้นแบบความสำเร็จของเราไหม
-
ถ้าคำตอบคือพร้อมที่จะเรียนรู้และทำงานหนัก คำถามข้อต่อไปคือ ฉันจะเรียนรู้จากต้นแบบของฉันอย่างไร
-
ถ้าเค้าสอน ก็โชคดี แต่ถ้าเค้าไม่สอน คำถามคือ เราจะแอบเรียนรู้จากต้นแบบของเราได้อย่างไร
ผมฝากฝากข้อคิดหนึ่งของ Henry Ford ไว้นะครับ Whether you think you can or think you can't. You're Right (ไม่ว่าคุณจะคิดว่าตัวเองทำได้ หรือคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ คุณคิดถูกเสมอ)