ราคาทองคำที่พุ่งสูงในปีนี้ มันคือความเสี่ยงหรือโอกาสที่ควรลงทุน ?
-
จากที่ราคาทองในปี 2567 นี้ ที่พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ผมอยากทราบว่าสถานการณ์ในตอนนี้เหมาะแก่การลงทุนในทองคำ ทั้งการซื้อหุ้น หรือตุนทองมั้ยครับ ? หรือมันมีความเสี่ยงที่ราคาทองคำจะลดต่ำลงแบบ Skyrocket เช่นเดียวกับที่ราคามันดีดตัวสูงขึ้นแบบในตอนนี้ครับ ?
ขอบคุณคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ ขอบคุณมากครับ
-
@T_Anonymous เรื่องนี้อาจจะต้องรบกวนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ @bonthr และผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน @phongthorn @Tom89 ครับ
ถ้าในมุมมองของนักวางแผนการเงิน ผมคิดว่า ความเสี่ยงและโอกาสมักจะมาพร้อมๆกัน อยู่ที่ว่าทางเลือกนั้นเหมาะกับแต่ละบุคคลหรือไม่ เช่น ถ้าเราเข้าใจว่า- การลงทุนในทองคำแตกต่างจากการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ อย่างไร
- โดยปกติราคาทองคำมีความผันผวนแค่ไหน และ
- การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำอาจจะช่วยทำให้ความผันผวนของพอร์ตลงทุนลดลงได้เนื่องจาก ความแตกต่างจากสินทรัพย์ลงทุนอื่นๆที่มีอยู่ในพอร์ตลงทุน
ก็เป็นไปได้ที่จะพิจารณาลงทุนในทองคำ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดก็ตาม
ส่วนเรื่องการตัดสินใจว่าเวลาใดเหมาะสมที่สุดนั้น ต้องใช้ปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นต้น ครับ
นักวางแผนการเงินท่านอื่นๆ @ป-ยะ-ส-ราสา @tiantayach ช่วยแสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ
-
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ประเมินมูลค่าได้ยาก เนื่องจากไม่ได้มีการสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุน แตกต่างจากหุ้น ซึ่งมีปันผล หรือตราสารหนี้ ซึ่งมีดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุน จึงประเมินมูลค่าได้ง่ายกว่า ดังนั้นจึงสังเกตเห็นได้ว่าเวลาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน แนะนำการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุน โดยทั่วไปจะมีทองคำเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยหรืออาจไม่มีเลย มีปัจจัยมากมายที่มีผลกระทบกับราคาทองคำ ทองคำอาจจะช่วยเป็นเครื่องมือในการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากจะสังเกตเห็นได้ว่าราคาทองคำมักเคลื่อนไหวสวนทางกับราคาหุ้น และเวลาที่ผู้คนไม่มั่นใจในการถือเงินสด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง หรือ อยู่ในสถานการณ์ที่มีสงคราม อาจมีความต้องการที่จะถือทองคำแทนมากขึ้น
-
ผมตอบแบบนี้ครับ 1.จากกราฟเราเทียบได้แค่หลังจาก1970 เพราะก่อนหน้านั้นมีการนำทองคำไปผูกกับดอลล่า แม้ในรูปบอกว่ามูลค่าเพื่มมาเท่ากันกับUS500แต่เนื่องจากทองผันผวนมากกว่า เราไปทำoptimization เพื่อให้ได้sharpe ratioสูงสุดเราจะได้สัดส่วนทองคำประมาณ30%ของport 2.ในทางElliott wave ทองคำกำลังทำwave3ย่อยของWAVE3ใหญ่ การที่ทองคำอยู่ในimpulse wave การเพื่มสัดส่วนทองคำจึงควรเร็วกว่าค่าเฉลี่ยที่จะลงทุนเพื่มแบบDCA แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจในความเสี่ยงการลงทุนว่าสูงมาก 3.การลดลงของมูลค่าอย่างรุนแรง รวดเร็ว และยาวนานในช่วงแรกของขาลงของทองคำเป็นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นแบบเดียวกับปี1980และปี2011 ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ในปัจจุบันว่าจะเกิดเมื่อใด จากราฟแม้เพียงการพักฐานในwave4ก็น่าจะรุนแรงเพียงพอที่สบัดนักเก็งกำไรออกไปจนหมด ทั้งๆที่ความเป็นcommodityของทองคำที่มักทำW5Xตามมาเสมอ -
@T_Anonymous พูดใน ราคาทองคำที่พุ่งสูงในปีนี้ มันคือความเสี่ยงหรือโอกาสที่ควรลงทุน ?:
ผมอยากทราบว่าสถานการณ์ในตอนนี้เหมาะแก่การลงทุนในทองคำ ทั้งการซื้อหุ้น หรือตุนทองมั้ยครับ ?
A: หากพิจารณาตามระดับราคาในช่วงปีนี้ เหมาะกับการลงทุนในระยะสั้นแบบ Day Trade มากกว่า
แต่ หากจะลงทุนแบบระยะยาวจริงๆ ก็น่าจะซื้อเก็บในช่วงที่ราคาย่อลงได้ เนื่องจาก แนวโน้มในในอนาคต Geopolitics มีโอกาสที่จะรุนแรงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสไม่กลับไปสูงเหมือนในอดีตก่อนวิกฤตซับไพร์มครับ
หรือมันมีความเสี่ยงที่ราคาทองคำจะลดต่ำลงแบบ Skyrocket เช่นเดียวกับที่ราคามันดีดตัวสูงขึ้นแบบในตอนนี้ครับ ?
A: มีโอกาสที่ความเสี่ยงที่ราคาทองคำจะลดต่ำลงแบบ Skyrocket เช่นเดียวกับที่ราคามันดีดตัวสูงขึ้นแบบในตอนนี้เหมือนกัน หากสงครามอิสราเอลและยูเครนยุติลง
แต่ ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นต่อจากนี้ไปอีก หากจีนบุกไต้หวัน
-
ในความเห็นผม อย่างที่ทราบกันว่าทองคำที่ถูกขุดมาในโลกเรา สัดส่วนการนำไปใช้งานมากที่สุดคืออุตสาหกรรม ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตชิปเซ็ต ผลิดเครื่องมือทางการแพทย์ ผลิตวัสดุสำคัญในรถยนต์ หรือผลิตเครื่องจักร ฯลฯ
สัดส่วนที่รองลงมาคือการนำทองคำเก็บสำรองระหว่างประเทศและเก็งกำไรไว้ใน vault ตามธนาคารต่างๆ
ดังนั้น เชื่อว่าระยะยาวทองคำราคาขึ้นไปเรื่อยๆแน่นอนครับไม่ว่าจะซื้อตรงไหน ถ้าอนาคตเชื่อว่าภาคการผลิตและเศรษฐกิจดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับอดีตที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องควรรอย่อก่อนไหม . . .สถานการณ์ตอนนี้ถือว่ายังมีความไม่แน่นอนในหลายเรื่อง และเมื่อใดก็ตามที่เกิดความไม่แน่นอนขึ้น สิ่งที่เป็น safe haven แบบทองคำก็ยังทำผลตอบแทนได้ดีต่อเนื่อง มองว่าการทยอย DCA ไว้ โดยไม่ต้องไปลุ้นที่ถูกแพง จะทำให้ port การลงทุนตัด bias ไปได้ค่อนข้างมาก เพราะอย่างไรก็ตามระยะยาวขึ้นกว่านี้แน่นอนตามเหตุผลข้างต้น ดังนั้น การไม่พยายามกะเก็งกำไร แล้วเก็บไปเรื่อยๆ จึงเป็นคำตอบจากนักวางแผนฯครับ