ความเครียดทางการเงินในที่ทำงาน
-
ผลการสำรวจสุขภาพทางการเงินของพนักงานในองค์กรโดย PwC เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา จากพนักงานประจำ 3,638 คน ในประเทศอเมริกา พบว่ามีพนักงานถึง 60% ที่ต้องเผชิญกับความเครียดทางการเงิน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่มีรายได้เกิน 100,000 ดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 3.5 ล้านบาทต่อปี) ที่เกือบครึ่งหนึ่ง (47%) ก็ยังกังวลในเรื่องการเงินเช่นเดียวกัน
ผลกระทบของความเครียดนี้ส่งผลต่อสุขภาพจิต การนอนหลับ และความมั่นใจในตนเอง แม้นายจ้างจะมีผู้ให้บริการวางแผนการเกษียณอายุให้คำแนะนำ พนักงานยังต้องการที่จะได้รับคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่เป็นกลางและไม่เกี่ยวข้องกับการขายผลิตภัณฑ์หรือแผนการเกษียณอายุของบริษัท
ความเครียดทางการเงินไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาส่วนตัว แต่ยังส่งผลกระทบต่อสถานที่ทำงาน พนักงานที่มีความกังวลทางการเงินมักจะหลุดโฟกัสจากการทำงานมากขึ้น นำไปสู่การมีส่วนร่วมและผลผลิตในการทำงานที่ลดลง
หนึ่งในสามของพนักงานยอมรับว่าความกังวลเรื่องเงินได้ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา พนักงานที่มีความเครียดทางการเงินมีโอกาสสูงมากกว่าปกติถึง 5 เท่า ที่จะถูกรบกวนจากปัญหาทางการเงินส่วนตัวในขณะทำงาน ซึ่งในจำนวนนี้มีมากถึง 56% ที่ใช้เวลาสามชั่วโมงหรือมากกว่าต่อสัปดาห์ในช่วงเวลาทำงานจัดการหรือคิดเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินส่วนตัว ส่งผลให้มีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่รู้สึกกระตือรือร้นในขณะทำงาน
แต่ยังมีข้อดีที่พบว่าส่วนใหญ่ของพนักงานกำลังมองหาคำแนะนำทางการเงินอย่างจริงจัง ประมาณ 74% มองหาคำปรึกษาเมื่อเผชิญกับการตัดสินใจทางการเงิน โดยมี 68% ที่ใช้บริการ โค้ชชิ่ง สัมมนา และเครื่องมือออนไลน์ที่นายจ้างให้บริการ
แม้ว่าข้อมูลนี้จะเป็นของพนักงานในประเทศอเมริกาเท่านั้น แต่ก็สะท้อนให้เห็นผลกระทบของความเครียดทางการเงินต่อสุขภาพและชีวิตการทำงานของพนักงาน ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ได้ตระหนักถึงแนวทางที่จะดูแลพนักงานให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
เพื่อนๆ คิดว่าสอดคล้องกับบ้านเราหรือเปล่าครับ?
ข้อมูลจาก link นี้